รสหวาน คงเป็นหนึ่งสิ่งที่ทำให้หลาย ๆ คนมีความสุขกับการกินไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นขนมหวาน เครื่องดื่ม หรือแม้แต่ผลไม้หวาน ๆ ก็ทำให้กินแล้วรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า อารมณ์ดี แต่องค์ประกอบของหวานเหล่านี้ คงหนีไม่พ้น “น้ำตาล” ต้นเหตุของความหวาน ที่หากทานในปริมาณมากเกินพอดี ก็อาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมากมาย เช่น

– โรคอ้วน น้ำหนักเกิน หากร่างกายได้รับน้ำตาลมาก เมื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานแล้วร่างกายนำไปเผาผลาญไม่หมด ก็จะกลายเป็นไขมันส่วนเกินสะสมในร่างกาย ทำให้กลายเป็นโรคอ้วนได้

– โรคเบาหวาน โดยปกติในร่างกายของเราจะมีฮอร์โมน “อินซูลิน” ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุล แต่การกินหวานหรือน้ำตาลมากเกินไป จะทำให้ร่างกายเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลินหรือสร้างอินซูลินได้ไม่เพียงพอ จึงทำให้เกิดน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น และความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานก็สูงตามไปด้วย

– โรคความดันโลหิตสูง เป็นอีกหนึ่งความเสี่ยงโดยเฉพาะผู้ที่มีภาวะอ้วนหรือน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน เพราะน้ำตาลที่เผาผลาญไม่หมด เมื่อถูกเปลี่ยนเป็นไขมันก็อาจไปเกาะสะสมกันอยู่ที่ผนังหลอดเลือด จนทำให้หลอดเลือดตีบและเป็นเหตุทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง

– โรคหัวใจ จากการที่มีน้ำตาลในเลือดสูง ที่อาจก่อให้เกิดทั้งโรคอ้วน และความดันโลหิตสูง ล้วนเป็นส่วนพื้นฐานที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจด้วย อีกทั้งน้ำตาลที่ถูกเปลี่ยนเป็นไขมันส่วนเกิน อาจไปเกาะสะสมในหลอดเลือดแดง เป็นสาเหตุให้เกิดโรคหลอดเลือดแดงแข็งอีกด้วย

– ไขมันพอกตับ หากคุณมีการบริโภคน้ำตาลชนิดฟรุกโตส ซึ่งมักถูกผสมอยูในเครื่องดื่มรสหวานต่าง ๆ ในปริมาณมากเกินไป ซึ่งน้ำตาลชนิดนี้จะถูกย่อยสลายที่ตับ และฟรุกโตสส่วนเกินที่ตับไม่ได้เปลี่ยนเป็นพลังงาน จะกลายเป็นไกลโคเจนหรือไขมัน ซึ่งถ้ามีปริมาณมากก็จะกลายเป็นโรคไขมันพอกตับได้ในที่สุด

– โรคมะเร็ง เพราะการกินน้ำตาลหรือของหวานจนเกิดภาวะอ้วน ร่างกายดื้อต่ออินซูลิน และยังทำให้อวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกายเกิดการอักเสบ จึงเพิ่มโอกาสที่เซลล์มะเร็งจะเกิดขึ้นในส่วนต่าง ๆ ได้เช่นกัน

– โรคซึมเศร้า การที่ร่างกายได้รับน้ำตาลมากเกินไป นอกจากผลเสียต่ออวัยวะภายในร่างกายโดยตรงแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อระบบประสาทและสมองส่วนควบคุมอารมณ์ เพราะการที่มีระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดความเครียดง่าย มีอารมณ์แปรปรวน และการนอนหลับ ซึ่งหากมีอาการเหล่านี้ต่อเนื่องนาน ๆ ก็จะเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้

นอกจากนี้ การกินน้ำตาลเกินพอดียังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเหงือกและฟันผุในเด็ก โรคไต โรคสมองเสื่อม และโรคอื่น ๆ อีกหลายโรค ดังนั้นจึงควรบริโภคน้ำตาลในปริมาณที่เหมาะสม คือ ไม่เกิน 6 ช้อนชา/วันสำหรับผู้ใหญ่ และไม่เกิน 4 ช้อนชา/วันสำหรับเด็ก

แต่ถ้าอยากให้ทุกมื้ออาหารมีความอร่อยได้ สบายใจ ไม่เสียสุขภาพ ลองเปลี่ยนมาใช้ น้ำหวานเชื่อมเกรดพรีเมี่ยม ปราศจากน้ำตาล ตราสีสรร แทนการใช้น้ำตาล ทานได้ทั้งผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือผู้ที่กำลังลดน้ำหนัก ก็ไม่ทำให้อ้วน และเด็ก ๆ ก็ทานได้ไม่ต้องกลัวฟันผุด้วยค่ะ

 

สนใจสอบถามข้อมูล #น้ำหวานและน้ำเชื่อมเข้มข้นปราศจากน้ำตาล ตรา #สีสรร หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้เลยที่
Facebook: สีสรรโซน ชุมชนคนรักสุขภาพ
Line: @Seasun
เว็บไซต์ www.seasunzone.com